Difference between revisions of "In RED like this"

From ShareRice Wiki (AFN)
Jump to: navigation, search
 
(One intermediate revision by one other user not shown)
Line 1: Line 1:
<maintab>[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Main_Page Home]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiDrama Lakorn Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiBoranDrama Boran Lakorn Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:SingerAll Music Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:MembersAll Members Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Help:Contents Help!!!]||[http://www.sarnworld.com/discuzz/ Forum]</maintab>
 
<subtab>[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiActor Actors]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiActress Actress]||[http://www.sarnworld.com Movies]||[http://www.sarnworld.com Translated Lyrics]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Wiki_Sarnworld:About About]</subtab>
 
  
 +
'''เรื่องย่อ'''
  
<div style="display:inline; width=320px; float=right;">
+
บุษบา ครูสอนดนตรีสาวแสนสวย แห่งโรงเรียนสอนดนตรีบ้านเพลง เป็นครูที่เด็กๆ รักที่สุด เธอเล่นเปียโนให้เด็ก ๆ ฟัง ธนาดล ครูหนุ่มและเจ้าของโรงเรียนที่แอบหลงรักบุษบา แต่เธอยังไม่เคยรับรักใคร บุษบา มีทาวน์เฮ้าส์สวยหรู ราคาแพง เธอเป็นเพียงแค่ครูสอนดนตรี แต่ทำไมมีรายได้มากมายนัก เธออาศัยอยู่กับเพื่อน ช่อทิพย์ ทำงานวงการโทรทัศน์ บุษบากลับถึงบ้านเปิดโทรทัศน์ ดูการเดินแฟชั่นโชว์ เธอสะดุดกับภาพนางแบบสาววัยสามสิบห้า ชื่อ รงรอง เมื่อเธอเห็นข่าวเกี่ยวกับรงรองครั้งใด เธอจะขาดสติแบบนี้ทุกครั้ง
[[Image:PicName.jpg|thumb|300px|Lakorn Name]]
+
บุษบาขึ้นบ้าน แต่งตัวจัดจ้าน เธอกำลังจะออกไปข้างนอก ไปร้องเพลงตามโรงแรม และ ที่เธอทำได้เพราะเธอคือ มินตรา คุณครูบุษบากับ มินตราคือคน ๆ เดียวกัน คุณครูที่น่ารักกับนักร้องเสน่ห์แรง
[[Image:PicName.gif|thumb|300px|Lakorn Name]]
 
</div>
 
  
<maintab>[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Main_Page Home]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiDrama Lakorn Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiBoranDrama Boran Lakorn Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:SingerAll Music Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:MembersAll Members Section]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Help:Contents Help!!!]||[http://www.sarnworld.com/discuzz/ Forum]</maintab>
+
ที่โรงแรมหรู มินตรา เป็นที่หลงใหลของแขก เธอชอบหว่านเสน่ห์กับผู้ชายที่มีครอบครัว และหนึ่งในนั้นคือ เสี่ยสุรินทร์ มีภรรยา มีลูกชาย ลูกสาวและลูกเขย รวมทั้งมีเมียเก็บชื่อ รงรอง เธอจะทำให้แตกแยกให้ได้ ความสุขของเธอคือการทำให้ครอบครัวแตกแยก เหมือนกับครอบครัวของเธอ พ่อแม่ไม่แยแส ยายเจียม เป็นคนเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอด เธอมีความหลังที่เจ็บปวด เธอจึงเป็นผู้หญิงสองร่าง
<subtab>[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiActor Actors]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Category:ThaiActress Actress]||[http://www.sarnworld.com Movies]||[http://www.sarnworld.com Translated Lyrics]||[http://wiki.sarnworld.com/index.php/Wiki_Sarnworld:About About]</subtab>
 
  
 +
ครอบครัวเสี่ยสุรินทร์มีภรรยา ชื่อ ฉวีวรรณ ศิธาลูกชายคนโต นันทพรลูกสาวคนเล็ก ศิธาเป็นพ่อหม้ายมีลูกสาวน่ารัก 1 คน ชื่อ กุลกานดา นับแต่ภรรยาเสียชีวิต เขายังไม่สนใจใคร เว้นแต่ อรอำไพ ที่ดูใจกันอยู่ แต่เธอไม่รักเด็ก ศิธา จึงยังไม่ตัดสินใจ
  
 +
ศิธา พากุลกานดาไปเที่ยวห้าง เขาปล่อยลูกสาวให้อยู่ตามลำพัง กุลกานดาอยากเข้าห้องน้ำ เธอไปโดยไม่รอพ่อ เธอวิ่งออกจากห้องน้ำสะดุดล้มลง มีผู้หญิงคนหนึ่งช่วยประคองไว้ และอยู่เป็นเพื่อนจนพ่อกลับมา ศิธา เห็นผู้หญิงคนนี้รู้สึกประทับใจ ศิธาพบกับธนาดลที่โรงแรมโดยบังเอิญ เขาทั้งสองเป็นเพื่อนกันแต่ไม่ได้ติดต่อกันนาน ธนาดลบอกว่าเขาทำโรงเรียนสอนดนตรี จึงชวนให้ศิธาพาให้ลูกสาวเล่นเปียโนเหมือนแม่ ศิธาเห็นบุษบา ธนาดลเข้ามาทักทาย และแนะนำให้รู้จักกับครูบุษบา ทั้งสองคนคุ้นหน้ากัน เคยเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า ครูบุษบาเป็นคนช่วยลูกสาวเขา ศิธาตัดสินใจสมัครเรียนให้ลูกสาว
  
 +
อรอำไพ สาวเปรี้ยวนักเรียนนอก พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว ทิ้งมรดกไว้มากมายมีพี่ชาย ชื่อ ยุทธดนัย อาชีพวิศวกรไฟฟ้า มีบริษัทของตัวเอง เป็นเพื่อนกับศิธา อรอำไพหลงรักศิธา แต่เธอไม่รักเด็ก
  
 +
ขณะที่ช่อทิพย์กำลังเตรียมบันทึกเทปรายการ ไฟดับกระทันหัน ยุทธดนัยจึงมาช่วยซ่อมให้แทน ช่อทิพย์คิดว่าเป็นพวกช่างไฟธรรมดา จึงไม่สนใจและใส่อารมณ์กับเขา ช่อทิพย์มารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของบริษัท
  
 +
มินตรา คืนนี้เธอมาร้องเพลงได้พบกับสุรินทร์ และเธอยั่วให้สุรินทร์หลงเสน่ห์ตาม เธอพบกับอิทธิพลโดยบังเอิญ บุษบา คิดจะจับอิทธิพลเป็นเหยื่ออีกคนหนึ่ง
  
 +
นันทพรกับอิทธิพล ได้พบกับรงรองงานในงานแฟชั่นโชว์ บอกให้เลิกกับพ่อของตน รงรองจะหลีกไปให้พ้นนันทพรไม่อยากมีเรื่อง นันทพรตบหน้ารงรอง นักข่าวจับภาพไว้ได้ทัน นันทพรถูกต่อว่า ว่าเป็นคนเปิดเผยความลับ ประจานครอบครัวตัวเอง ศิธาแนะนำให้นันทพรไปขอโทษพ่อ แต่เธอยังลังเล
  
<div style="display:inline; width=320px; float=right;">
+
บุษบาและช่อทิพย์ออกไปข้างนอก ช่อทิพย์แวะที่สตูดิโอ ระหว่างที่บุษบารออยู่ ยุทธดนัยมีบริษัทติดกัน เห็นบุษบาจึงเข้ามาทักทาย ช่อทิพย์ออกมาเห็นสงสัยว่ารู้จักกันได้อย่างไร ยุทธดนัยบอกว่าช่อทิพย์ดุมาก เจอทีไรดุทุกที
[[Image:PicName.jpg|thumb|300px|Lakorn Name]]
 
[[Image:PicName.gif|thumb|300px|Lakorn Name]]
 
</div>
 
  
 +
ระหว่างที่บุษบากลับบ้าน รถเสียกลางทางในซอยเปลี่ยว เธอพบกับชายสามคนตามมาลวนลามเธอ เธอต่อสู้ขัดขืน มีรถผ่านมา ชายหนุ่มช่วยพาไปโรงพยาบาล บุษบาจำได้ว่าเป็นศิธา แต่เขาจำเธอไม่ได้
  
== Production Credits ==
+
ศิธาถามชื่อเธอ เธอตอบ มินตรา เขาพาเธอไปโรงพยาบาล จ่ายค่ารักษาให้ด้วย ศิธา พาบุษบาไปส่งถึงบ้าน แต่เธอลงที่ป้ายรถเมย์ ศิธาพบผ้าเช็ดหน้าตกอยู่ในรถ ปักลายดอกไม้และชื่อบุษบา ศิธาเก็บไว้ในลิ้นชัก เผื่อมีโอกาสได้พบเธออีกครั้ง
*'''Producer:'''
 
*'''Director:'''
 
*'''Screenwriter:'''
 
*'''Company Name:'''
 
== Cast ==
 
*[[Diew Alongkorn ]] as Pansa
 
*[[Fang Pitchaya Srithep]] as Sai Mai
 
*[[Pin Kejmanee Pichaironnarongsongkhram]] as Euer Jun
 
*[[May Fuengarom]] as Duen Ward (Sai Mai's Mother)
 
*[[Sinitha Boonyasak]] as Pim Dao
 
*[[Jakkrit]] as Kwarn Muerng (Sai Mai's Father)
 
*[[Actor/Actress Real Name]] as Character Name
 
*[[Actor/Actress Real Name]] as Character Name
 
*[[Actor/Actress Real Name]] as Character Name
 
  
== Synopsis/Review ==
+
บุษบา ได้พบกับศิธา ยุทธดนัย ธนาดล ศิธาสังเกตเห็นแผลที่ขาของบุษบาทำให้นึกถึงนักร้องสาวคนนั้นที่เขาได้ช่วย เหลือ ศิธาถามบุษบาว่าไปโดนอะไรมา เธอตอบว่าตกบันได
  
In the small Province of Chiang Mai where Koom Sai Karm is located, a wealthy owner of a silk weaving business “Mae Liang Sai Kam” hosts a dinner party that neared her birthday. In the party, there was a claw dance including a dance artisan named Euer Jun, a beautiful young woman with many men who desired her, including Kwarn Muerng, the son-in-law of Mae Liang Saai Karm, the husband of Duen Ward, the eldest daughter of Mae Liang Saai Karm. There is also Pim Dao, the youngest daughter of Mae Liang Saai Karm, who has a fiance named Waaroon, a wealthy and handsome young man, whom  Mae Liang intended to announce their wedding, but Waaroon ends up confessing that he and Euer Jun secretly loves one another. This makes Mae Liang Saai Karm and Pim Dao very angry. In that night, Waaroon attempts to meet with Euer Jun in attempts to run away with each other. After the party, Waaroon sends Jook, the son of Malai, who is a weaver and the friend of Euer Jun to tell Euer Jun to wait for him at the silk weaving building. Euer Jun immediately goes to the building in hopes of telling Waaroon that she is pregnant with his child. Once she gets there, she doesn’t see anyone at all. Suddenly, she is hit in the head. The person that hurted her was Mae Liang and Pim Dao. The two takes Euer Jun into the forest in hopes of killing her, but Euer Jun awakes and tries to fight. Kwarn Muerng coincidentally comes by and hears someone calling for help so he interrupts. The mother and daughter had to hide first instead of Kwarm Muerng trying to help Euer Jun, he tried to sexually assault her. Euer Jun had to hide in a chest that held ancient cloth. As Kwarn Muerng was about to find Euer Jun, Duern Ward who was looking for him came and stopped him. Kwarn Murng regret about not being able to find Euer Jun and so he leaves the room. Duen Ward was suspicious about the big chest and realized that Euer Jun was in there and thought that she had came to meet her husband secretly. She than locks the chest leaving Euer Jun dead. Euer Jun scared and calls for help, but no one could hear her. Duern Ward orders Boon Dtar, a person very close to her to take the chest and throw it into a marsh lake behind the house. Jook comes and see’s the incident and calls for help, but Duen Ward orders Boon Dtar to kill Jook and throw the body in the marsh lake, awhile Duern Ward tries to press Euer Jun into the water, but Euer Jun continued to fight back with all her strength. In the end, she couldn’t fight Duern Ward and Boon Dtar and ends up concealed in the chest. In her final attempt, Euer Jun grabs Duern Ward's ruby necklace in her hand. Duern Ward and Boon Dtar helps each other to lock Euer Jun in the Chest. Waaroon was attacked and was unconscience for awhile. When he awoke he went to find Euer Jun as he had planned, but he didn’t see her there. Mae Liang and Pim Dao tells Waaroon that Euer Jun must have ran away with another man. Waaroon is very sad and dissapears… Won Malai, Jook’s mother becomes sad and depressed that her son was dead and turns crazy. The story of that day then becomes a dark secret that no one knew and found where Euer Jun was. The only person was Ouy Taa, an old drunken man who took care of the silk weaving building that saw the whole incident, but because the fear for his life he dares not to speak of the incident. Mae Liang Saai Karm ends up closing the weaving factory in Chiang Mai and moves her family to Bangkok (Krung Thep. Many years later, there are rumors and tales about Koom Saai Karm and how there are ghosts. Many villagers met the ghost of Jook and that their heads were pulled into the water. Every night at full moon, they would hear the drum and loom sounds. Villagers then began to tell tales about Euer Jun that she  probably didn’t run away with a man, but was probably murdered.
+
มินตราไปร้องเพลงพบกับสุรินทร์ยื่นข้อเสนอการเป็นเมียเก็บให้ มินตรา เธอปฏิเสธ และยื่นข้อเสนอกลับว่า มินตราจะต้องเป็นหนึ่งเดียว
  
Years later, Sai Mai, the daughter of Kwarn Muerng and Duern Ward, who just finished school wants to start a homestay business at Koom Saai Karm, a old home of the family which everyone in her family forbid her from going there. But Sai Mai insists and invited her friend Dtim Sarm to go with her. At the airport of Chiang Mai, Sai Mai encounters Pansa, a young police officer, who had just moved to accept service there was immediately impressed with Sai Mai at first sight. Once they arrived at Koom Saai Karm, they met the caretakers of Koom Saai Karm. From there, they encountered the weird sounds and surroundings.
+
บุษบาขับรถไปโรงพยาบาล ศิธาขับรถตาม เธอรู้ว่าศิธากำลังตามเธอ ศิธาจึงเข้าไปพบเธอ บุษบาแกล้งทำสีหน้าตกใจ ศิธากล่าวขอโทษเรื่องอรอำไพ บุษบารู้สึกตัวว่าเธอกำลังมีความรัก รักครั้งแรกของเธอ อรอำไพก็โกรธ เธอรู้ดีว่าผู้หญิง คนนี้ร้ายกาจ
  
==Gallery==
+
ช่อทิพย์ไปเดินหาซื้อของ ผ่านร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า จำได้ว่าเป็นร้านของวิทย์ พ่อของบุษบา เธอเกือบจะเดินผ่านเลยไป แต่เหลือบเห็นยุทธดนัยคุยอยู่กับวิทย์ จากการสนทนา เธอรู้ว่ายุทธดนัยเป็นเจ้าหนี้ และวิทย์เป็นลูกหนี้ วิทย์ขอผลัดผ่อนหนี้ออกไปอีก 1 เดือน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอแกล้งยืนรอแท๊กซี่ที่ฟุตบาธหน้าร้าน เพื่อให้ยุทธดนัยมองเห็น ปกติแล้วช่อทิพย์จะต้องทำหน้าบึ้งตึง แต่คราวนี้เธอยิ้มรับยุทธดนัย เขาอาสาพาเธอไปส่งที่สตูดิโอ
  
Put more pictures here!
+
ช่อทิพย์รู้ว่าวิทย์ติดหนี้ยุทธดนัย มาครึ่งปีแล้วจำนวนสองแสนบาท ยุทธดนัยรู้ว่าวิทย์เป็นพ่อของบุษบา แต่บุษบาไม่ยอมรับเป็นพ่อ ซึ่งตรงกับข้อมูลที่เขาได้รับจากศิธา ว่าบุษบาไม่มีพ่อแม่ ยายเจียมเป็นคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ ช่อทิพย์กลับบ้านเล่าเรื่องให้บุษบาฟัง บุษบาสะใจที่ครอบครัวของวิทย์จะต้องล้มละลาย
  
<gallery>
+
ศิธาพูดเหมือนกับว่าต้องการแปรเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างกัน อรอำไพเจอผ้าเช็ดหน้าปักชื่อบุษบาในลิ้นชักหน้ารถของศิธาเขายืนยันว่าเป็น ของนักร้องชื่อ มินตรา ที่เขาช่วยเหลือไว้
image:.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
image:picname.jpg
 
  
</gallery>
+
มินตราไปร้องเพลงที่ไนท์คลับ อิทธิพลตามไปเฝ้า ทั้งสองคนได้คุยกัน อิทธิพลติดใจ มินตรา ชวนเธอออกไปด้วย แต่ได้รับคำปฏิเสธ เธอปฏิเสธเพื่อยั่วให้หลงใหลมากขึ้น “รอให้คุณไม่มีเมียก่อนค่อยมาคุยกันใหม่”
  
== Trivia or Interesting Info about this Lakorn ==
+
อรอำไพไปหาบุษบาทั้งสองเจอกัน บุษบาเก็บอารมณ์เธอเตือนตัวเองตอนนี้เธอเป็นครูสอนดนตรี เป็นบุษบา ไม่ใช่ มินตรา อรอำไพคาดคั้นเรื่องผ้าเช็ดหน้าบนรถของศิธา บุษบาปฏิเสธ แต่หากเธออยู่ในคราบของมินตรา เธอจะยอมรับ อรอำไพรู้ตัวดีว่าไม่ได้เผชิญหน้ากับผู้หญิงอ่อนนุ่ม เรียบร้อย แต่เจอกับนางมารร้ายแฝงมาในคราบกุลสตรี บุษบารักศิธา เธอจะแย่งศิธาทั้งที่ไม่มีเจตนา แต่ความรู้สึกพาไป เธอใช้มารยาเอาชนะ อรอำไพ
  
*someone broke their arm?
+
ยุทธดนัย ธนาดล ศิธา ออกไปทานข้าวด้วยกัน พูดคุยกันเรื่องผู้หญิง ศิธาบอกยุทธดนัยว่าหากต้องเลิกกับอรอำไพอย่าโกรธกัน ยุทธดนัย และศิธารู้ว่าธนาดลหลงรักบุษบาข้างเดียว
*or something else..
 
  
 +
บุษบา แกล้งถอยหลังชนศิธา ทักทายกัน ศิธาบอกว่าจะคืนผ้าเช็ดหน้าให้ บุษบา พบรงรองที่งานเดินแฟชั่นนาฬิกาและบุษบาได้ประมูลนาฬิกามาครองด้วยเธอต้องการ ให้รงรองรู้ว่าเธอมีสปอนเซอร์และเป็นคนเดียวกับแม่
  
== Links related to this lakorn ==
+
ธนาดล บอกรักบุษบา แต่บุษบาไม่รับรัก เธอตอบว่าเธอมีคนรักแล้ว ศิธาคุยกับสุรินทร์เรื่องนาฬิกาสุรินทร์บอกว่าเป็นการกุศล ศิธาเป็นห่วงกลัวว่าพ่อจะทุ่มเทมากเกินไป สุรินทร์บอกว่าเขามีสติไม่หลงจนหัวปักหัวปำ สุรินทร์มาบ้านรงรอง รงรองพูดถึงสาวคนใหม่ก็คือบุษบาไม่อยากให้เป็นเมียเก็บของสุรินทร์เท่ากับ ว่าแม่กับลูกมีสามีคนเดียวกัน รงรองขอร้องสุรินทร์ไม่ให้คบกับ มินตรา แต่ไม่สำเร็จ
*[http://www.yourlink.com/ Delete this part and add description]
 
*[http://www.yourlink.com/ Delete this part and add description]
 
*[http://www.yourlink.com/ Delete this part and add description]
 
*[http://www.yourlink.com/ Delete this part and add description]
 
*[http://www.yourlink.com/ Delete this part and add description]
 
  
[[Category:ThaiDrama]] [[Category:ThaiDramaYEAR]] [[Category:Channel ?]]
+
ศิธารู้สึกผิดหวังในตัวอรอำไพ พลันให้นึกถึงหน้าครูบุษบา ความสัมพันธ์ระหว่างศิธา และอรอำไพดูจะห่างออกไปเรื่อยๆ
 +
 
 +
หลังจากเยี่ยมยายเจียม บุษบาเดินมาหยุดอยู่หน้าวัด เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนบาป เธอเดินเข้าไปกราบพระ ออกมานั่งเล่นอยู่ที่บันไดโบสถ์ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาแล้วเป็นลม บุษบาเข้าไปช่วยเธอนึกได้ว่านี่คือ คุณฉวีวรรณ ภรรยาของสุรินทร์ ทั้งสองพูดคุยกันถึงเรื่องครอบครัว ฉวีวรรณสอนให้บุษบารู้จักคำว่าอดทน เสียสละ ให้อภัย ครอบครัวจะมีความสุข บ้านจะเป็นบ้านที่ร่มเย็น ถึงแม้บุษบาจะเห็นความดีของฉวีวรรณแต่ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ
 +
 
 +
วิทย์เห็นข่าวลูกสาวเขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากบุษบา และจำได้ว่าลูกสาวเคยมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยยายเจียม แต่ขณะที่เขามีหนี้สินมากมาย ดารุณีเมียของเขากลับแนะนำให้เขาบากหน้าไปหาลูกสาวให้ช่วยเหลือ วิทย์ขอโทษเธอที่ไม่ได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก มินตรารู้สึกเจ็บแค้นตอกย้ำเรื่องราวในอดีต เธอเดินหนี และขับรถออกไป
 +
 
 +
มินตรามาร้องเพลงที่ไนท์คลับ ศิธาเห็นอิทธิพลตามตื๊อ มินตรา ไม่น่าเชื่อทั้งพ่อและน้องเขยหลงผู้หญิงคนเดียวกัน แต่เธอยื่นเงื่อนไขให้อิทธิพลหย่ากับภรรยาก่อน เธอถึงบ้านเล่าให้ช่อทิพย์ฟัง ช่อทิพย์ขอร้องเธอให้เลิกเคียดแค้นเสียทีเธอยังเจ็บฝังใจกับเรื่องราวในอดีต อันขมขื่น
 +
 
 +
กุลกานดาบอกศิธาว่าจะขอรางวัลโดยให้ครูบุษบาเป็นแม่ ศิธารีบกล่าวขอโทษ กุลกานดาดึงมือครูบุษบาไว้ ย้ำว่าขอให้ครูบุษบาเป็นแม่
 +
 
 +
ช่อทิพย์ไปช้อปปิ้ง ถูกคนเบียดเกือบล้ม แต่ยุทธดนัยช่วยเธอไว้ทันนั่นเอง ยุทธดนัยเดินจากไปเมื่อเห็นว่าช่อทิพย์ปลอดภัยแล้ว ช่อทิพย์เริ่มรู้สึกดีกับยุทธดนัย
 +
 
 +
ศิธาดักรอบุษบา ศิธาขอร้องเธอให้เลิกข้องเกี่ยวกับน้องเขย อย่าทำลายครอบครัวของน้องสาว มินตรารับคำขอร้องอย่างไม่เต็มใจนัก “ ฉันจะพยายาม ”
 +
 
 +
บุษบากำลังจะเดินมาคุยกับอิทธิพล นันทพรปราดเข้ามาขวาง ด่าทออิทธิพลและ มินตรา นันทพรตามจะไปตบ มินตรา เธอนึกถึงคำพูดของศิธา แล้วเดินจากไป
 +
 
 +
บุษบาคุยกับช่อทิพย์ เธอใจอ่อนจะทำความดี เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณของศิธา แต่ช่อทิพย์รู้ทันเพื่อน เป็นเพราะความรักต่างหากที่สามารถแปรเปลี่ยนความแค้นให้เบาบางลง
 +
 
 +
ศิธากล่าวขอโทษที่ต้องเลิกรากับอรอำไพยุทธดนัยไม่ว่าอะไร กลับยุให้สานสัมพันธ์กับครูบุษบา เพราะไหนๆ กุลกานดาก็เลือกเธอเป็นแม่ ศิธาบอกว่ายุทธดนัยกำลังมีความรัก ศิธายุเพี่อนให้จีบช่อทิพย์ เขาสารภาพกับช่อทิพย์ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ช่อทิพย์เขินอายหน้าแดงกำลังจะเดินหนี เขาคว้ามือเธอไว้ และบอกว่าต่อไปนี้จะเริ่มตามจีบเธอ สุรินทร์รอคอยที่จะพบบุษบา เป้าหมายของเธอคือทำให้สุรินทร์ตัดขาดจากรงรอง
 +
 
 +
บุษบาเธอเข้าไปนั่งฟังพระกำลังเทศน์ อย่างเงียบสงบ บังเอิญพระเทศน์เรื่องการแก้แค้น อาฆาตเป็นบาป เธอทนฟังไม่ได้ หนีออกมานั่งข้างนอก ฉวีวรรณเดินมาพบเธอร้องไห้ เธอโผเข้ากอดฉวีวรรณ ฉวีวรรณปลอบและพูดให้เธอได้คิด หยุดการทำบาป เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ เอาความดีชนะความชั่ว ฉวีวรรณรู้สึกถูกชะตากับบุษบา ชวนเธอไปบ้าน แต่เธอยังไม่ไป เกรงว่าความจะแตก
 +
 
 +
บ่ายวันหนึ่งเวลาน้ำชาของครอบครัว ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ศิธาบอกกับทุกคนในครอบครัวว่าเลิกคบกับ อรอำไพแล้ว กุลกานดาบอกว่ารักครูบุษบา อยากให้ครูบุษบามาเป็นแม่ สุรินทร์ได้ยินบอกว่าจะไปสู่ขอให้
 +
 
 +
สุรินทร์ตามมาเฝ้า มินตรา เหมือนเคย เธอร้องเพลงเสร็จมานั่งคุยด้วย สุรินทร์ชวนเธอออกไปทานข้าว เธอปฏิเสธและบอกว่าสุรินทร์จะไม่ได้พบนักร้องที่ชื่อ มินตราอีกแล้ว เธอกล่าวขอโทษและรีบผละไปทันที เธอสำนึกบาป ขอเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนเพราะเธอกำลังมีความรัก และเพราะฉวีวรรณทำให้เธอได้คิด...
 +
 
 +
 
 +
... จบบริบูรณ์ ...

Latest revision as of 12:19, 21 October 2008

	 เรื่องย่อ

บุษบา ครูสอนดนตรีสาวแสนสวย แห่งโรงเรียนสอนดนตรีบ้านเพลง เป็นครูที่เด็กๆ รักที่สุด เธอเล่นเปียโนให้เด็ก ๆ ฟัง ธนาดล ครูหนุ่มและเจ้าของโรงเรียนที่แอบหลงรักบุษบา แต่เธอยังไม่เคยรับรักใคร บุษบา มีทาวน์เฮ้าส์สวยหรู ราคาแพง เธอเป็นเพียงแค่ครูสอนดนตรี แต่ทำไมมีรายได้มากมายนัก เธออาศัยอยู่กับเพื่อน ช่อทิพย์ ทำงานวงการโทรทัศน์ บุษบากลับถึงบ้านเปิดโทรทัศน์ ดูการเดินแฟชั่นโชว์ เธอสะดุดกับภาพนางแบบสาววัยสามสิบห้า ชื่อ รงรอง เมื่อเธอเห็นข่าวเกี่ยวกับรงรองครั้งใด เธอจะขาดสติแบบนี้ทุกครั้ง บุษบาขึ้นบ้าน แต่งตัวจัดจ้าน เธอกำลังจะออกไปข้างนอก ไปร้องเพลงตามโรงแรม และ ที่เธอทำได้เพราะเธอคือ มินตรา คุณครูบุษบากับ มินตราคือคน ๆ เดียวกัน คุณครูที่น่ารักกับนักร้องเสน่ห์แรง

ที่โรงแรมหรู มินตรา เป็นที่หลงใหลของแขก เธอชอบหว่านเสน่ห์กับผู้ชายที่มีครอบครัว และหนึ่งในนั้นคือ เสี่ยสุรินทร์ มีภรรยา มีลูกชาย ลูกสาวและลูกเขย รวมทั้งมีเมียเก็บชื่อ รงรอง เธอจะทำให้แตกแยกให้ได้ ความสุขของเธอคือการทำให้ครอบครัวแตกแยก เหมือนกับครอบครัวของเธอ พ่อแม่ไม่แยแส ยายเจียม เป็นคนเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอด เธอมีความหลังที่เจ็บปวด เธอจึงเป็นผู้หญิงสองร่าง

ครอบครัวเสี่ยสุรินทร์มีภรรยา ชื่อ ฉวีวรรณ ศิธาลูกชายคนโต นันทพรลูกสาวคนเล็ก ศิธาเป็นพ่อหม้ายมีลูกสาวน่ารัก 1 คน ชื่อ กุลกานดา นับแต่ภรรยาเสียชีวิต เขายังไม่สนใจใคร เว้นแต่ อรอำไพ ที่ดูใจกันอยู่ แต่เธอไม่รักเด็ก ศิธา จึงยังไม่ตัดสินใจ

ศิธา พากุลกานดาไปเที่ยวห้าง เขาปล่อยลูกสาวให้อยู่ตามลำพัง กุลกานดาอยากเข้าห้องน้ำ เธอไปโดยไม่รอพ่อ เธอวิ่งออกจากห้องน้ำสะดุดล้มลง มีผู้หญิงคนหนึ่งช่วยประคองไว้ และอยู่เป็นเพื่อนจนพ่อกลับมา ศิธา เห็นผู้หญิงคนนี้รู้สึกประทับใจ ศิธาพบกับธนาดลที่โรงแรมโดยบังเอิญ เขาทั้งสองเป็นเพื่อนกันแต่ไม่ได้ติดต่อกันนาน ธนาดลบอกว่าเขาทำโรงเรียนสอนดนตรี จึงชวนให้ศิธาพาให้ลูกสาวเล่นเปียโนเหมือนแม่ ศิธาเห็นบุษบา ธนาดลเข้ามาทักทาย และแนะนำให้รู้จักกับครูบุษบา ทั้งสองคนคุ้นหน้ากัน เคยเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า ครูบุษบาเป็นคนช่วยลูกสาวเขา ศิธาตัดสินใจสมัครเรียนให้ลูกสาว

อรอำไพ สาวเปรี้ยวนักเรียนนอก พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว ทิ้งมรดกไว้มากมายมีพี่ชาย ชื่อ ยุทธดนัย อาชีพวิศวกรไฟฟ้า มีบริษัทของตัวเอง เป็นเพื่อนกับศิธา อรอำไพหลงรักศิธา แต่เธอไม่รักเด็ก

ขณะที่ช่อทิพย์กำลังเตรียมบันทึกเทปรายการ ไฟดับกระทันหัน ยุทธดนัยจึงมาช่วยซ่อมให้แทน ช่อทิพย์คิดว่าเป็นพวกช่างไฟธรรมดา จึงไม่สนใจและใส่อารมณ์กับเขา ช่อทิพย์มารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของบริษัท

มินตรา คืนนี้เธอมาร้องเพลงได้พบกับสุรินทร์ และเธอยั่วให้สุรินทร์หลงเสน่ห์ตาม เธอพบกับอิทธิพลโดยบังเอิญ บุษบา คิดจะจับอิทธิพลเป็นเหยื่ออีกคนหนึ่ง

นันทพรกับอิทธิพล ได้พบกับรงรองงานในงานแฟชั่นโชว์ บอกให้เลิกกับพ่อของตน รงรองจะหลีกไปให้พ้นนันทพรไม่อยากมีเรื่อง นันทพรตบหน้ารงรอง นักข่าวจับภาพไว้ได้ทัน นันทพรถูกต่อว่า ว่าเป็นคนเปิดเผยความลับ ประจานครอบครัวตัวเอง ศิธาแนะนำให้นันทพรไปขอโทษพ่อ แต่เธอยังลังเล

บุษบาและช่อทิพย์ออกไปข้างนอก ช่อทิพย์แวะที่สตูดิโอ ระหว่างที่บุษบารออยู่ ยุทธดนัยมีบริษัทติดกัน เห็นบุษบาจึงเข้ามาทักทาย ช่อทิพย์ออกมาเห็นสงสัยว่ารู้จักกันได้อย่างไร ยุทธดนัยบอกว่าช่อทิพย์ดุมาก เจอทีไรดุทุกที

ระหว่างที่บุษบากลับบ้าน รถเสียกลางทางในซอยเปลี่ยว เธอพบกับชายสามคนตามมาลวนลามเธอ เธอต่อสู้ขัดขืน มีรถผ่านมา ชายหนุ่มช่วยพาไปโรงพยาบาล บุษบาจำได้ว่าเป็นศิธา แต่เขาจำเธอไม่ได้

ศิธาถามชื่อเธอ เธอตอบ มินตรา เขาพาเธอไปโรงพยาบาล จ่ายค่ารักษาให้ด้วย ศิธา พาบุษบาไปส่งถึงบ้าน แต่เธอลงที่ป้ายรถเมย์ ศิธาพบผ้าเช็ดหน้าตกอยู่ในรถ ปักลายดอกไม้และชื่อบุษบา ศิธาเก็บไว้ในลิ้นชัก เผื่อมีโอกาสได้พบเธออีกครั้ง

บุษบา ได้พบกับศิธา ยุทธดนัย ธนาดล ศิธาสังเกตเห็นแผลที่ขาของบุษบาทำให้นึกถึงนักร้องสาวคนนั้นที่เขาได้ช่วย เหลือ ศิธาถามบุษบาว่าไปโดนอะไรมา เธอตอบว่าตกบันได

มินตราไปร้องเพลงพบกับสุรินทร์ยื่นข้อเสนอการเป็นเมียเก็บให้ มินตรา เธอปฏิเสธ และยื่นข้อเสนอกลับว่า มินตราจะต้องเป็นหนึ่งเดียว

บุษบาขับรถไปโรงพยาบาล ศิธาขับรถตาม เธอรู้ว่าศิธากำลังตามเธอ ศิธาจึงเข้าไปพบเธอ บุษบาแกล้งทำสีหน้าตกใจ ศิธากล่าวขอโทษเรื่องอรอำไพ บุษบารู้สึกตัวว่าเธอกำลังมีความรัก รักครั้งแรกของเธอ อรอำไพก็โกรธ เธอรู้ดีว่าผู้หญิง คนนี้ร้ายกาจ

ช่อทิพย์ไปเดินหาซื้อของ ผ่านร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า จำได้ว่าเป็นร้านของวิทย์ พ่อของบุษบา เธอเกือบจะเดินผ่านเลยไป แต่เหลือบเห็นยุทธดนัยคุยอยู่กับวิทย์ จากการสนทนา เธอรู้ว่ายุทธดนัยเป็นเจ้าหนี้ และวิทย์เป็นลูกหนี้ วิทย์ขอผลัดผ่อนหนี้ออกไปอีก 1 เดือน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอแกล้งยืนรอแท๊กซี่ที่ฟุตบาธหน้าร้าน เพื่อให้ยุทธดนัยมองเห็น ปกติแล้วช่อทิพย์จะต้องทำหน้าบึ้งตึง แต่คราวนี้เธอยิ้มรับยุทธดนัย เขาอาสาพาเธอไปส่งที่สตูดิโอ

ช่อทิพย์รู้ว่าวิทย์ติดหนี้ยุทธดนัย มาครึ่งปีแล้วจำนวนสองแสนบาท ยุทธดนัยรู้ว่าวิทย์เป็นพ่อของบุษบา แต่บุษบาไม่ยอมรับเป็นพ่อ ซึ่งตรงกับข้อมูลที่เขาได้รับจากศิธา ว่าบุษบาไม่มีพ่อแม่ ยายเจียมเป็นคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ ช่อทิพย์กลับบ้านเล่าเรื่องให้บุษบาฟัง บุษบาสะใจที่ครอบครัวของวิทย์จะต้องล้มละลาย

ศิธาพูดเหมือนกับว่าต้องการแปรเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างกัน อรอำไพเจอผ้าเช็ดหน้าปักชื่อบุษบาในลิ้นชักหน้ารถของศิธาเขายืนยันว่าเป็น ของนักร้องชื่อ มินตรา ที่เขาช่วยเหลือไว้

มินตราไปร้องเพลงที่ไนท์คลับ อิทธิพลตามไปเฝ้า ทั้งสองคนได้คุยกัน อิทธิพลติดใจ มินตรา ชวนเธอออกไปด้วย แต่ได้รับคำปฏิเสธ เธอปฏิเสธเพื่อยั่วให้หลงใหลมากขึ้น “รอให้คุณไม่มีเมียก่อนค่อยมาคุยกันใหม่”

อรอำไพไปหาบุษบาทั้งสองเจอกัน บุษบาเก็บอารมณ์เธอเตือนตัวเองตอนนี้เธอเป็นครูสอนดนตรี เป็นบุษบา ไม่ใช่ มินตรา อรอำไพคาดคั้นเรื่องผ้าเช็ดหน้าบนรถของศิธา บุษบาปฏิเสธ แต่หากเธออยู่ในคราบของมินตรา เธอจะยอมรับ อรอำไพรู้ตัวดีว่าไม่ได้เผชิญหน้ากับผู้หญิงอ่อนนุ่ม เรียบร้อย แต่เจอกับนางมารร้ายแฝงมาในคราบกุลสตรี บุษบารักศิธา เธอจะแย่งศิธาทั้งที่ไม่มีเจตนา แต่ความรู้สึกพาไป เธอใช้มารยาเอาชนะ อรอำไพ

ยุทธดนัย ธนาดล ศิธา ออกไปทานข้าวด้วยกัน พูดคุยกันเรื่องผู้หญิง ศิธาบอกยุทธดนัยว่าหากต้องเลิกกับอรอำไพอย่าโกรธกัน ยุทธดนัย และศิธารู้ว่าธนาดลหลงรักบุษบาข้างเดียว

บุษบา แกล้งถอยหลังชนศิธา ทักทายกัน ศิธาบอกว่าจะคืนผ้าเช็ดหน้าให้ บุษบา พบรงรองที่งานเดินแฟชั่นนาฬิกาและบุษบาได้ประมูลนาฬิกามาครองด้วยเธอต้องการ ให้รงรองรู้ว่าเธอมีสปอนเซอร์และเป็นคนเดียวกับแม่

ธนาดล บอกรักบุษบา แต่บุษบาไม่รับรัก เธอตอบว่าเธอมีคนรักแล้ว ศิธาคุยกับสุรินทร์เรื่องนาฬิกาสุรินทร์บอกว่าเป็นการกุศล ศิธาเป็นห่วงกลัวว่าพ่อจะทุ่มเทมากเกินไป สุรินทร์บอกว่าเขามีสติไม่หลงจนหัวปักหัวปำ สุรินทร์มาบ้านรงรอง รงรองพูดถึงสาวคนใหม่ก็คือบุษบาไม่อยากให้เป็นเมียเก็บของสุรินทร์เท่ากับ ว่าแม่กับลูกมีสามีคนเดียวกัน รงรองขอร้องสุรินทร์ไม่ให้คบกับ มินตรา แต่ไม่สำเร็จ

ศิธารู้สึกผิดหวังในตัวอรอำไพ พลันให้นึกถึงหน้าครูบุษบา ความสัมพันธ์ระหว่างศิธา และอรอำไพดูจะห่างออกไปเรื่อยๆ

หลังจากเยี่ยมยายเจียม บุษบาเดินมาหยุดอยู่หน้าวัด เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนบาป เธอเดินเข้าไปกราบพระ ออกมานั่งเล่นอยู่ที่บันไดโบสถ์ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาแล้วเป็นลม บุษบาเข้าไปช่วยเธอนึกได้ว่านี่คือ คุณฉวีวรรณ ภรรยาของสุรินทร์ ทั้งสองพูดคุยกันถึงเรื่องครอบครัว ฉวีวรรณสอนให้บุษบารู้จักคำว่าอดทน เสียสละ ให้อภัย ครอบครัวจะมีความสุข บ้านจะเป็นบ้านที่ร่มเย็น ถึงแม้บุษบาจะเห็นความดีของฉวีวรรณแต่ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ

วิทย์เห็นข่าวลูกสาวเขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากบุษบา และจำได้ว่าลูกสาวเคยมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยยายเจียม แต่ขณะที่เขามีหนี้สินมากมาย ดารุณีเมียของเขากลับแนะนำให้เขาบากหน้าไปหาลูกสาวให้ช่วยเหลือ วิทย์ขอโทษเธอที่ไม่ได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก มินตรารู้สึกเจ็บแค้นตอกย้ำเรื่องราวในอดีต เธอเดินหนี และขับรถออกไป

มินตรามาร้องเพลงที่ไนท์คลับ ศิธาเห็นอิทธิพลตามตื๊อ มินตรา ไม่น่าเชื่อทั้งพ่อและน้องเขยหลงผู้หญิงคนเดียวกัน แต่เธอยื่นเงื่อนไขให้อิทธิพลหย่ากับภรรยาก่อน เธอถึงบ้านเล่าให้ช่อทิพย์ฟัง ช่อทิพย์ขอร้องเธอให้เลิกเคียดแค้นเสียทีเธอยังเจ็บฝังใจกับเรื่องราวในอดีต อันขมขื่น

กุลกานดาบอกศิธาว่าจะขอรางวัลโดยให้ครูบุษบาเป็นแม่ ศิธารีบกล่าวขอโทษ กุลกานดาดึงมือครูบุษบาไว้ ย้ำว่าขอให้ครูบุษบาเป็นแม่

ช่อทิพย์ไปช้อปปิ้ง ถูกคนเบียดเกือบล้ม แต่ยุทธดนัยช่วยเธอไว้ทันนั่นเอง ยุทธดนัยเดินจากไปเมื่อเห็นว่าช่อทิพย์ปลอดภัยแล้ว ช่อทิพย์เริ่มรู้สึกดีกับยุทธดนัย

ศิธาดักรอบุษบา ศิธาขอร้องเธอให้เลิกข้องเกี่ยวกับน้องเขย อย่าทำลายครอบครัวของน้องสาว มินตรารับคำขอร้องอย่างไม่เต็มใจนัก “ ฉันจะพยายาม ”

บุษบากำลังจะเดินมาคุยกับอิทธิพล นันทพรปราดเข้ามาขวาง ด่าทออิทธิพลและ มินตรา นันทพรตามจะไปตบ มินตรา เธอนึกถึงคำพูดของศิธา แล้วเดินจากไป

บุษบาคุยกับช่อทิพย์ เธอใจอ่อนจะทำความดี เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณของศิธา แต่ช่อทิพย์รู้ทันเพื่อน เป็นเพราะความรักต่างหากที่สามารถแปรเปลี่ยนความแค้นให้เบาบางลง

ศิธากล่าวขอโทษที่ต้องเลิกรากับอรอำไพยุทธดนัยไม่ว่าอะไร กลับยุให้สานสัมพันธ์กับครูบุษบา เพราะไหนๆ กุลกานดาก็เลือกเธอเป็นแม่ ศิธาบอกว่ายุทธดนัยกำลังมีความรัก ศิธายุเพี่อนให้จีบช่อทิพย์ เขาสารภาพกับช่อทิพย์ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ช่อทิพย์เขินอายหน้าแดงกำลังจะเดินหนี เขาคว้ามือเธอไว้ และบอกว่าต่อไปนี้จะเริ่มตามจีบเธอ สุรินทร์รอคอยที่จะพบบุษบา เป้าหมายของเธอคือทำให้สุรินทร์ตัดขาดจากรงรอง

บุษบาเธอเข้าไปนั่งฟังพระกำลังเทศน์ อย่างเงียบสงบ บังเอิญพระเทศน์เรื่องการแก้แค้น อาฆาตเป็นบาป เธอทนฟังไม่ได้ หนีออกมานั่งข้างนอก ฉวีวรรณเดินมาพบเธอร้องไห้ เธอโผเข้ากอดฉวีวรรณ ฉวีวรรณปลอบและพูดให้เธอได้คิด หยุดการทำบาป เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ เอาความดีชนะความชั่ว ฉวีวรรณรู้สึกถูกชะตากับบุษบา ชวนเธอไปบ้าน แต่เธอยังไม่ไป เกรงว่าความจะแตก

บ่ายวันหนึ่งเวลาน้ำชาของครอบครัว ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ศิธาบอกกับทุกคนในครอบครัวว่าเลิกคบกับ อรอำไพแล้ว กุลกานดาบอกว่ารักครูบุษบา อยากให้ครูบุษบามาเป็นแม่ สุรินทร์ได้ยินบอกว่าจะไปสู่ขอให้

สุรินทร์ตามมาเฝ้า มินตรา เหมือนเคย เธอร้องเพลงเสร็จมานั่งคุยด้วย สุรินทร์ชวนเธอออกไปทานข้าว เธอปฏิเสธและบอกว่าสุรินทร์จะไม่ได้พบนักร้องที่ชื่อ มินตราอีกแล้ว เธอกล่าวขอโทษและรีบผละไปทันที เธอสำนึกบาป ขอเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนเพราะเธอกำลังมีความรัก และเพราะฉวีวรรณทำให้เธอได้คิด...


... จบบริบูรณ์ ...



You are not allowed to post comments.