Difference between revisions of "Saeb Salup Kua"
(→Cast) |
(→Cast) |
||
Line 51: | Line 51: | ||
* รวิช ไรวินท์ as | * รวิช ไรวินท์ as | ||
* ชูษี เชิญยิ้ม as (ป่อง) | * ชูษี เชิญยิ้ม as (ป่อง) | ||
− | * | + | * [[Fah Napisa Bomsan]] as (ยุพา) |
* รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์ as (หมอแม่น) | * รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์ as (หมอแม่น) | ||
* ดอน จมูกบาน as (ร.ป.ภ พิชิต) | * ดอน จมูกบาน as (ร.ป.ภ พิชิต) |
Revision as of 20:19, 30 June 2012
Contents
Details
- Title: แสบสลับขั้ว / Saeb Salup Kua
- Also known as:
- Duration: Episode
- Genre: Drama/Comedy
- Popularity: Rating for the first episode: (not yet) --- Rating for the last episode: (not yet)
- Air time: Wednesday - Thursday
- Broadcast network: Channel 7
- Broadcast period: July 4, 2012 ---
- Theme song:
- Opening Theme -
- End Theme -
Production Credits
- Producer: Add info here
- Director: Add info here
- Screenwriter: Add info here
- Company Name: Dida
Cast
- Stephan Santi Visaboonchai as Chien (เซียน)
- Cheer Thikumporn Rittapinun as Nampetch (น้ำเพชร)
- Thunwa Suriyajak as Playai (ปลาใหญ่)
- Tuptim Unyarin Teerathananpat as Saipin (สายพิณ)
- Fern Thitinan Suwanthaworn as (รัญญา)
- สุธีร์ เสียงหวาน as (เอ๊กซ์)
- Aon Kevlin Kortland as
- Louis Ummarin Simaroj as (เกริกก้อง)
- Glom Noppon Pitaklohpanit as (ชายสี่)
- Big Sarut Vijittranon as (ปกรณ์)
- Fai Nichanun Funkaew as (ดาริกา)
- Tum Wichaya Jarujinda as (มอมแมม)
- พิพัฒน์พล โกมารทัต as (เติมศักดิ์)
- วันชัย เผ่าวิบูลย์ as (เกรียงไกร)
- Thom Nahatai Pichitra as (กิมฮวย)
- ปนัดดา โกมารทัต as (ยายปิ่น)
- Tai Chatchadaporn Thananta as (จันทร์ทิพย์)
- Krerk Chiller as (ครรชิต)
- ราตรี วิทวัส as (สายไหม)
- รวิช ไรวินท์ as
- ชูษี เชิญยิ้ม as (ป่อง)
- Fah Napisa Bomsan as (ยุพา)
- รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์ as (หมอแม่น)
- ดอน จมูกบาน as (ร.ป.ภ พิชิต)
- จารุศิริ ภูวนัย as (สมทรง)
- เบญญาภา เชาวฤทธิ์ as (สมศรี)
Synopsis/Review
- Summary is in Thai.
Credit to: Dida website
- เมื่อโชคชะตาเล่นตลกจับ “ตัวแสบขาแวนซ์ระดับเทพ” สลับร่างของ “คุณชายจอมเนี้ยบตัวพ่อ”ความสุดขั้วของ ๒ ตัวแสบทำให้เกิดเรื่องโกลาหลอลหม่านทั้งเรื่องการงานและความรัก
ณ ชุมชนพัฒนาสู่สุขาวดี ชุมชนเล็กๆที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นที่สิงสถิตย์ของ เซียน ชายไทยวัยเกือบ ๓๐ แต่มีพฤติกรรมราวกับทีนเอจเจอร์ (Teenager) หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ผู้ใหญ่ไม่รู้จักโต” วันๆเอาแต่แต่งรถมอเตอร์ไซด์ ค่ำๆก็ออกแวนซ์กับเด็กแถวบ้าน ถึงแม้อายุจะต่างกันเกือบเท่าตัว แต่เซียนก็ไม่หวั่น ตะบี้ตะบันไร้สาระไปวันๆ เป็นที่หนักใจของ ป้าสายไหม พี่สาวพ่อผู้รับหน้าที่อุปการะเซียน หลังจากกำพร้าพ่อแม่จากอุบัติเหตุทางเรือตั้งแต่เด็ก สายไหมต้องปากเปียกปากแฉะกับการพร่ำบ่นเซียนตลอดเวลา ตอนเป็นนักเรียนก็เรียนไม่เอาไหน โตขึ้นก็ไม่หางานทำเป็นเรื่องเป็นราว เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น จนสุดท้ายมาลงเอยอยู่ที่วินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยเป็นงานอดิเรก สายไหมเหนื่อยใจกับความไม่รับผิดชอบของหลานชายคนเดียวอย่างสุดระอา อยากจะไล่ออกจากบ้านหลายครั้ง แต่หลานชายตัวดีใช้คารม บวกอารมณ์ขัน ทำให้สายไหมใจอ่อน ต้องยอมเลี้ยงดู (มัน) ต่อไป
นอกจากสายไหมที่หลงคารมเซียนแล้ว สายพิณ (พิณ) เด็กสาวรุ่นน้องข้างบ้านที่โตตามกันมายังเป็นอีกหนึ่งคนที่แอบปลื้มกับอารมณ์ขันของเซียน สายพิณเป็นหญิงสาววัยใส แสนดี อ่อนหวาน ตัวเล็กๆ น่ารัก เป็นเหมือนดอกไม้แสนสวยที่แอบซ่อนอยู่ในชุมชนแออัด สายพิณเป็นเด็กกำพร้าเหมือนเซียน อาศัยอยู่กับ ยายปิ่น คู่หูคู่ฮาของป้าสายไหม สายพิณอยู่บ้านติดกับเซียน ด้วยความใกล้ชิดทำให้สายพิณคิดกับเซียนเกินพี่ชาย แต่เซียนกลับไม่เคยเห็นเธอเป็นอื่น นอกจากน้องสาวแสนน่ารัก น่าทะนุถนอม สายพิณจำต้องเก็บความรักไว้ในใจไม่เคยบอกใคร ด้วยความไม่เจียมกะลาหัว เซียนดั๊นไปแอบชอบ น้ำเพชร ลูกสาว เติมศักดิ์ (เฮียเติม) และ เจ๊กิมฮวย (ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สมรศรีมณีฉาย ในภายหลัง) น้ำเพชรเป็นลูกสาวร้านทองหน้าชุมชนหมอเล้ง จบการบริหารมาจากออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นเลขานุการให้กับ ปลาใหญ่ (คุณใหญ่) นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง (มั่กๆ) อายุยังไม่ทันก้าวข้ามมาเลข ๒ จำต้องมารับช่วงกิจการของตระกูลมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ น้ำเพชรเป็นเลขาหน้าใหม่ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน น้ำเพชรแอบชอบปลาใหญ่เจ้านายหน้าใส แต่ด้วยวัยที่ต่างกัน ประกอบกับความเคร่งขรึม จริงจัง เฮี้ยบ เนี้ยบ กริบ ทำให้น้ำเพชรไม่กล้าแสดงออก ได้แต่เก็บอาการแอบชอบอยู่ในใจลึ๊ก...ลึก !!
ถ้าเทียบระหว่างเซียนและปลาใหญ่ มันช่างแตกต่างและห่างไกลราวกับสรวงสวรรค์และแกนโลก ไม่ว่าเซียนจะพยายามตามจีบน้ำเพชรสักแค่ไหน แม้แต่ปลายหางตาเธอยังไม่เคยจะแลมาสักครั้งเดียว ปลาใหญ่เป็นลูกชายคนเดียวของ เกรียงไกร มหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ เจ้าของโรงงานทอผ้าไหมรายใหญ่ของประเทศไทย เกรียงไกรเสียภรรยาตั้งแต่ปลาใหญ่มีอายุได้เพียง ๓ ขวบ เขาส่งลูกชายคนเดียวไปอยู่โรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ และกำลังจะเข้าศึกษาปริญญาตรี ปลาใหญ่ถูกเรียกตัวกลับมาประเทศไทยอย่างกะทันหัน เพราะเกรียงไกรเส้นโลหิตในสมองแตกจากความเครียด เขาเสียชีวิตหลังจากที่เห็นหน้าลูกชายเพียงไม่กี่นาที การจากไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของปลาใหญ่พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ปลาใหญ่ต้องรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจกรุ๊ป ในขณะเพียง ๑๙ ปี ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักใครสักคน คนที่เขาพอจะไว้ใจได้คือ พ่อบ้านครรชิต คนเก่าแก่ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยดูแลปลาใหญ่และพ่อ ครรชิตเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่อยู่เคียงข้างปลาใหญ่ในขณะขึ้นชกในสังเวียนธุรกิจที่แสนจะโหดร้าย โดยเฉพาะต้องคอยรับมือกับการสกัดดาวรุ่งของ เกริกก้อง น้องชายพ่อ ที่ต้องการฮุบกิจการเป็นของตัวเอง เกริกก้องไม่พอใจที่พี่ชายแต่งตั้งหลานชายปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาดูแลธุรกิจที่ก่อร่างสร้างกันมา เขาพยายามกลั่นแกล้ง และบีบบังคับให้ปลาใหญ่ขายหุ้นให้เขา แต่ไม่สำเร็จ ปลาใหญ่ยืนยันที่จะดูแลธุรกิจของพ่อด้วยตัวเอง เกริกก้องยิ่งไม่พอใจ หาทางดันรัญญา (รัน) ลูกสาวคนเดียวขึ้นมาเทียบชั้นกับปลาใหญ่ รัญญาเป็นสาวเก๋ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง จบการศึกษาด้วยคะแนนดีเยี่ยม เรียนรู้งานมาตั้งแต่เด็ก รัญญาได้เปรียบปลาใหญ่ในทุกๆด้าน นอกจากปลาใหญ่ต้องเจอกับการเปรียบเทียบกับรัญญาแล้วยังต้องปวดหัวกับ จันทร์ทิพย์ ภรรยาของเกริกก้องที่คอยสร้างความปั่นป่วนภายในบ้านไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งจ้างคนใช้สืบข้อมูลส่วนตัวของปลาใหญ่ และคอยสาระแนตีสองหน้าทำเป็นหวังดี แต่จริงๆ ร้ายสุดขั้ว ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวได้เป็นใหญ่
ปลาใหญ่ต้องต่อสู้กับตัวเอง และต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ทำให้เขาเป็นเจ้านายที่สุดแสนเคร่งขรึม และอารมณ์ร้ายได้อย่างง่ายดาย ต่อมเหวี่ยงทำงานดีเป็นพิเศษ จนได้รับฉายา “คุณหนูอารมณ์เหวี่ยง” เลขากี่คนๆก็ไม่เคยรอด ภายในเวลาแค่ ๓ เดือน เปลี่ยนเลขามา ๑๒ คน และน้ำเพชรเป็นคนที่ ๑๓ หมายเลขสุดอาถรรพ์ แต่ด้วยความประทับใจส่วนตัวที่มีต่อเจ้านายสุดหล่อหน้าใส ทำให้น้ำเพชรกัดฟันทนทุกสิ่งอย่าง เข้าทำนองถึงร้ายก็รัก เซียนมีโอกาสได้เจอกับปลาใหญ่โดยบังเอิญ เพราะน้ำเพชรลืมเอกสารสำคัญไว้ที่บ้าน กิมฮวย เลยต้องจ้างเซียนให้เอาเอกสารไปให้ แวบแรกที่เจอกัน เซียนสุดหมั่นไส้ (แกมอิจฉา) เพราะปลาใหญ่ทั้งหล่อ ใส รวย และยังได้ทำงานใกล้ชิดน้ำเพชรอีกต่างหาก เซียนแอบหึงทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นแฟน ปลาใหญ่เห็นว่าเซียนมีท่าทีสนิทสนมกับน้ำเพชร จึงเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ปลาใหญ่เตือนให้น้ำเพชรอบรมสั่งสอนแฟน เพราะเซียนแสดงความรุ่มร่ามแอบทรามเล็กน้อยออกมาโดยไม่รู้ว่าปลาใหญ่เป็นเจ้านาย น้ำเพชรแทบกรี๊ดและพยายามจะอธิบายความจริง แต่ปลาใหญ่ไม่สนใจฟัง ทำให้น้ำเพชรยิ่งเกลียดเซียนเข้าไส้สั่งให้เขาอยู่ห่างจากเธอมากที่สุด เซียนถึงกับน้ำตาตกในและหมั่นไส้ (ไอ้) เจ้านายขี้เก๊กมากเป็นทวีคูณ เซียนกลับมาระบายกับสหายเลิฟที่วินมอเตอร์ไซด์ด้วยความแค้นใจ สหายของเซียนประกอบไปด้วย ป๋อง ชายไทยวัยเกือบ ๒๐ ร่างใหญ่ มีน้ำใจ กลัวผี มีฝีมือด้านทำอาหารเป็นเลิศ มอมแมม ชายไทยร่างเล็ก ขี้ท้า...ท้าไปทั่ว แต่จริงๆเป็นคนขี้กลัวที่สุด ชายสี่ เป็นคนที่ดูดี มีหลักการ แต่จริงๆแล้วมั่ว ทั้งสามคนเป็นน้องรักของเซียน ขอให้เป็นเรื่องไร้สาระเข้าไว้...ถึงไหนถึงกัน! หลังจากระบายความเคียดแค้นจนสาแก่ใจ เซียนประกาศอย่างกึกก้องว่าชาตินี้จะไม่ขอไปเหยียบที่ทำงานปลาใหญ่อีก และถ้ารวยกว่าเมื่อไหร่จะซื้อกิจการของปลาใหญ่ให้หมด !! ป๋อง มอมแมม และชายสี่ หรือแม้แต่ตัวเซียน รู้ว่ามันเป็นคำท้าทายที่สุดแสนจะห่างไกลความเป็นไปได้ ต่อให้เซียนเกิดใหม่อีกร้อยกว่าชาติก็ไม่มีทางจะรวยกว่าปลาใหญ่เด็ดขาดแต่แล้ว..เหตุการณ์สุดพิลึกพิลั่นก็พลันเกิดขึ้น...
เมื่อปลาใหญ่มีเหตุต้องรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อไปงานสำคัญ ในขณะที่เซียนต้องมาส่งเอกสารให้กับลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงกัน เซียนบิดมาอย่างเร็ว ทันใดนั้นเอง มีเด็กขี่รถจักรยานพรวดออกมานอกถนน และล้มลงตรงหน้าเซียนในระยะกระชั้นชิด เซียนตัดสินใจหักรถหลบออกโดยไม่ระวัง รถที่ตามหลังมาชนเข้าอย่างจัง ร่างเซียนลอยละลิวปลิวมาตกลงข้างถนน สลบเมือดไปทันที !! ในเวลาเดียวกัน ปลาใหญ่ขับรถอยู่อีกถนนด้วยความเร็วสูง ทันใดนั้นก็มีรถออกปาดหน้าเข้ามาอย่างเร็ว ทำให้ปลาใหญ่ต้องรีบหักหลบกะทันหัน รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ทั้งปลาใหญ่และเซียนอยู่ในอาการโคม่า และถูกพาส่งโรงพยาบาลเดียวกัน !! ในวินาทีแห่งชีวิตที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นกับความตาย ทั้งสองคนถูกเครื่องกระตุ้นหัวใจกระชากจิตและวิญญาณเข้าสู่ร่าง...ฟึ่บบบบบ !!
เซียนและปลาใหญ่รู้สึกตัวขึ้นในเวลาเดียวกันอย่างปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่มหัศจรรย์พันลึกยิ่งกว่านั้น คือ ทั้งสองคนค้นพบว่าร่างที่ตัวเองกำลังดำรงอยู่นั้น...มันไม่ใช่ร่างของตัวเอง วิญญาณของปลาใหญ่ดั๊นอุตริเข้าไปอยู่ในร่างของเซียน และวิญญาณของเซียนทะลึ่งเข้าไปอยู่ในร่างของปลาใหญ่ ทันทีที่ทั้งสองคนรู้สึกตัวและค้นพบความจริงอันแสนพิสดาร ทั้งเซียน (ที่อยู่ในร่างของปลาใหญ่) และปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างของเซียน) สุดแสนจะช้อค !! (โอ้ว..แม่เจ้าเป็นไปได้อย่างไร???) ปลาใหญ่รีบบุกมาหาเซียนทันที ในขณะที่เซียนยังมึนๆอยู่ ปลาใหญ่พยายามจะเขย่าให้วิญญาณของเซียนออกจากร่างตัวเอง ทันใดนั้น น้ำเพชรเข้ามาเห็นพอดี๊...พอดี รีบเข้ามากระชากปลาใหญ่ออกจากเซียน พร้อมกับด่ากระจายไล่ให้ปลาใหญ่ออกไปไกลๆจากเซียน (เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองคนสลับร่างกันอยู่) ปลาใหญ่พยายามจะอธิบาย แต่ยิ่งพูด น้ำเพชรยิ่งคิดว่าเขาบ้า เซียนได้ทีรีบสวมรอยเป็นปลาใหญ่ทันที และไล่ปลาใหญ่ออกไป ทำให้ปลาใหญ่แค้นสุดๆ เขาจะต้องหาทางกลับคืนสู่ร่างเดิมให้ได้
หลังจากการสลับร่างที่สุดแสนพิลึกกึกกือเริ่มต้นขึ้น ชีวิตของเซียน (ในร่างปลาใหญ่) และชีวิตของปลาใหญ่ (ในร่างเซียน) ก็ต้องพบกับความโกลาหลอลหม่านมากมาย เรียงหน้ากระดานเข้ามาจนรับแทบไม่ไหว เซียนตื่นเต้นกับความรวยได้ไม่นาน เขาก็ค้นพบว่าชีวิตมหาเศรษฐีหมื่นล้านสุดแสนจะน่าเบื่อ งานก็หนัก ต้องมีประชุมมากมาย ประชุมแต่ละทีก็มีแต่เรื่องเครียด คิดหัวแตกก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง เอกสารที่ต้องเซ็นก็มีนับไม่ถ้วน และไม่ว่าเขาจะเซ็นสักกี่ครั้ง ก็เซ็นไม่เหมือน เช็คไม่ผ่าน ทั้งบริษัทวุ่นวายไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น...ทั้ง เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และ รัญญา ยังหาเรื่องเขาไม่เว้น แต่ละวัน ทั้งเรื่องทำให้เสียหน้า ทำให้เสียชื่อเสียง เสียความน่าเชื่อถือ จนเซียนแทบจะอยากออกจากร่างเศรษฐีหมื่นล้าน แล้วกลับไปเป็นไอ้เซียนคนเดิม
สิ่งเดียวที่ทำให้เซียนมีความสุข คือการได้อยู่ใกล้น้ำเพชร ราวกับความฝันที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง เซียนใช้ความเป็นปลาใหญ่หาโอกาสอยู่กับน้ำเพชรสองต่อสอง ใช้หน้าที่การงานไปหาเธอที่บ้าน อ้างว่ามีงานด่วน แล้วไปโชว์รวยต่อหน้าเติมศักดิ์และกิมท้อด้วยความสะใจ แรกๆน้ำเพชรก็ตื่นเต้นที่เจ้านายสุดที่รักดูเหมือนจะมีใจให้อย่างคาดไม่ถึง แต่หลังๆ เธอเริ่มรู้สึกว่ามันมากจนผิดสังเกต ประกอบกับบุคลิกภาพก็แตกต่างราวกับคนละคน ยังไง๊...ยังไง มันก็ไม่ใช่คุณปลาใหญ่ที่เธอเคยรู้จัก แต่มันช่างคลับคล้ายคลับคลากับ (ไอ้)เซียนเสียเหลือเกิ๊น...(ยังไงกันเนี่ย?) แต่ในความต่างมันกลับทำให้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ทั้งอารมณ์ขันและคารมที่สุดแสนจะลื่นไหล ทำให้เธออารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
To review the whole summary: Saeb Salup Kua section
Trivia or Interesting Info about this Lakorn
- Win Tawin Yavapolkul and Fern Pimchanok Leuwisedpaiboon were going to be playing leading role in this lakorn when news came out. But inside source said it was going to be Cheer Thikumporn Rittapinun and Stephan Santi Visaboonchai in the end it was Cheer & Stephan who will be playing the leading role in this drama.
Gallery
Link
Enable comment auto-refresher